แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดเดาล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เวลาไหน ยิ่งไปกว่านั้นความเสียหายที่ตามมาก็ไม่ได้มีแค่เรื่องของโครงสร้างอาคาร แต่ยังส่งผลต่อความรู้สึกปลอดภัยของลูกบ้าน รวมถึงความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการของคอนโดด้วย บทความนี้จึงรวบรวมแนวทางวิธีรับมือแผ่นดินไหวมาฝาก เพื่อให้นิติบุคคลคอนโดสามารถเตรียมความพร้อม วางแผนรับมืออย่างเป็นระบบ และจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คนไทยส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าเมื่อเกิดแผ่นดินไหวควรทำอย่างไร เพราะประเทศไทยไม่ได้อยู่ในแนววงแหวนไฟ หรือ Ring of Fire ที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง แต่แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวในประเทศใกล้เคียงก็อาจส่งผลกระทบมาถึงไทยได้ทุกเมื่อ ดังเช่นเหตุการณ์แผ่นดินไหวในไทยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.20 น. ที่มีศูนย์กลางอยู่ในเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา ห่างจากอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประมาณ 320 กิโลเมตร ความรุนแรงระดับ 8.2 ส่งผลให้หลายพื้นที่ของไทย ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ที่ถือว่ามีความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 90 ปี
สาเหตุของแผ่นดินไหวในครั้งนี้มาจากการขยับตัวของรอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) ที่มีความยาว 1,200 กิโลเมตร พาดผ่านหลายเมืองสำคัญของเมียนมา เช่น มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ย่างกุ้ง ซึ่งถ้าหากลองย้อนกลับไปดูประวัติของเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทยก็จะพบว่า รอยเลื่อนนี้เคยทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่สะเทือนมาถึงไทยอยู่หลายครั้ง เช่น ในปี 2455 ที่มีระดับความรุนแรงถึง 8.0 จนทำให้เจดีย์หลายแห่งของพม่าพังทลายลงมา และในปี 2473 ที่มีความรุนแรงระดับ 7.3 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน
ดังนั้นถึงแม้ว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวจะผ่านพ้นไปแล้วก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะรอยเลื่อนยังคงมีการสะสมพลังงานอย่างช้าๆ และอาจปลดปล่อยความรุนแรงที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างได้ตลอดเวลา จึงจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมืออยู่เสมอ
มาดูกันดีกว่าเมื่อเกิดแผ่นดินไหว นิติบุคคลคอนโดสามารถเตรียมความพร้อม รับมือ และจัดการกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้ลูกบ้านรู้สึกปลอดภัย ไม่รีบขายคอนโดหรือฉีกสัญญาไปเสียก่อน
สิ่งแรกที่ต้องทำหลังเกิดแผ่นดินไหวคือ การตรวจสอบความปลอดภัยของคอนโดดูว่าอาคารเอียงไหม ฐานรากมีการทรุดตัวหรือไม่ มีรอยร้าวเกิดขึ้นตรงไหนบ้าง โดยเฉพาะโครงสร้างหลัก เสา คาน หลังคา ฝ้าเพดาน จุดเชื่อมต่อ ตลอดจนงานระบบต่างๆ เช่น ระบบไฟฟ้า ประปา ระบบปรับอากาศ ระบบระบายน้ำทิ้ง ระบบลิฟต์ ฯลฯ นอกจากนี้ควรสังเกตอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่บริเวณใกล้เคียงด้วย เพราะหากมีการถล่มลงมา ก็อาจส่งผลกระทบมาถึงคอนโดของเราได้เช่นกัน
หากไม่มีส่วนใดเสียหาย หรือเสียหายเพียงเล็กน้อย ไม่กระทบต่อการใช้งาน เช่น มีรอยร้าวเล็กๆ ลึกแค่ชั้นปูนฉาบ แต่โครงสร้างหลักยังแข็งแรงดี ทางเข้า - ออกใช้งานได้ ถือว่าอยู่ในระดับ “สีเขียว” สามารถให้ลูกบ้านกลับเข้าไปภายในคอนโดและใช้งานได้ตามปกติ
ส่วนคอนโดที่ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหวในระดับที่ส่งผลต่อการใช้งาน เช่น โครงสร้างมีรอยร้าวชัดเจน หรือมีชิ้นส่วนที่อาจร่วงหล่นลงมา ถือว่าอยู่ในระดับ “สีเหลือง” ควรนำแผงเหล็กหรือเทปมากั้นพื้นที่เสี่ยง ติดป้ายประกาศให้ชัดเจน พร้อมแจ้งเตือนลูกบ้านไม่ให้เข้าใกล้ จากนั้นจึงให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
เมื่อคอนโดแผ่นดินไหว ลูกบ้านย่อมเกิดความกังวลใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยของตัวอาคาร หรือทรัพย์สินที่อยู่ภายในห้อง จึงเป็นหน้าที่ของนิติบุคคลอาคารชุดที่ต้องแจ้งข้อมูลให้ลูกบ้านทราบโดยเร็วที่สุด โดยใช้ช่องทางสื่อสารที่หลากหลาย เช่น กลุ่มไลน์คอนโด แอปพลิเคชันคอนโดจาก Silverman หรือติดป้ายประกาศตามจุดต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกบ้านได้ทุกคน
นอกจากนี้ ข้อมูลที่รายงานก็ควรมีความละเอียดและชัดเจน เช่น ขณะนี้กำลังดำเนินการอะไรอยู่บ้าง มีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว พื้นที่ใดสามารถเข้าใช้ได้ พื้นที่ใดที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหรือปิดใช้งานชั่วคราว และคอยอัปเดตสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจ้งช่องทางติดต่อที่ลูกบ้านจะสามารถแจ้งปัญหา ขอความช่วยเหลือ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้สะดวก
หากพบรอยร้าวที่ผนังอาคาร และประเมินเบื้องต้นแล้วว่าอาจเป็นรอยร้าวที่ลึกถึงโครงสร้าง หรือไม่แน่ใจในความปลอดภัย บริษัทนิติบุคคลคอนโดควรประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที โดยแจ้งเหตุไปยังสำนักงานเขตในพื้นที่ หรือกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อขอคำแนะนำ และให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบสภาพรอยร้าวอย่างละเอียด
ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือมีความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต เช่น มีคนติดอยู่ในลิฟต์ มีเสียงลั่นของโครงสร้าง หรืออาคารมีการทรุดตัว ควรรีบประสานงานกับหน่วยกู้ภัยเพื่อขอความช่วยเหลือ หรือติดต่อหน่วยงานตรวจสอบโครงสร้างที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางให้เข้ามาประเมินความมั่นคงของอาคาร
คอนโดส่วนใหญ่มีการทำประกันเอาไว้อยู่แล้ว แต่นิติบุคคลอาคารชุดต้องตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้งว่า กรมธรรม์ที่มีอยู่เป็นประเภทไหน หากเป็นประกันความเสี่ยงภัยทุกชนิด หรือ Industrial All Risks (IAR) มักจะคุ้มครองทรัพย์สินส่วนกลางในกรณีที่เกิดภัยพิบัติต่างๆ รวมถึงแผ่นดินไหวด้วย แต่วงเงินและรายละเอียดอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัท บางที่ครอบคลุมแค่โครงสร้างอาคาร ฝ้า ผนัง ลิฟต์ ส่วนกลาง สระว่ายน้ำ ฯลฯ แต่บางที่ครอบคลุมไปถึงทรัพย์สินภายในห้องชุด เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และเฟอร์นิเจอร์ Built-in ด้วย
ที่สำคัญ หลังเกิดแผ่นดินไหวควรดำเนินการแจ้งเหตุกับบริษัทประกันให้เร็วที่สุด และจัดเตรียมเอกสารหรือหลักฐานต่างๆ ให้ครบถ้วน เช่น รูปถ่ายความเสียหาย รายการทรัพย์สินที่เสียหาย เอกสารประเมินราคาซ่อม ฯลฯ เพื่อให้กระบวนการเคลมเป็นไปอย่างรวดเร็ว และควรแนะนำให้ลูกบ้านตรวจสอบประกันห้องของตนเองด้วย เพราะความเสียหายภายในห้องอาจไม่ได้รวมอยู่ในความคุ้มครองของประกันภัยคอนโด
เมื่อประเมินความเสียหายเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว นิติบุคคลควรวางแผนซ่อมแซมโดยเรียงลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องซ่อมก่อน เช่น ระบบไฟฟ้า บันได ลิฟต์ จากนั้นจึงค่อยดำเนินการในส่วนที่มีความจำเป็นรองลงมา เช่น สระว่ายน้ำ สวนส่วนกลาง โดยเลือกใช้บริการผู้รับเหมาที่มีใบอนุญาตถูกต้อง มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการซ่อมแซมอาคารประเภทคอนโด เพื่อให้มั่นใจว่าการซ่อมแซมจะมีคุณภาพได้มาตรฐาน
ในกรณีที่การซ่อมแซมต้องใช้เงินจากกองกลาง ควรมีการนัดประชุมคณะกรรมการบริหารและลูกบ้าน พร้อมแจ้งรายละเอียดของปัญหา แผนการซ่อมแซม และงบประมาณเบื้องต้น ให้ทุกคนรับทราบ จะช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างโปร่งใส และลดข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นภายหลังได้
การเตรียมความพร้อมเป็นวิธีที่จะช่วยป้องกันและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ดีที่สุด ทางคอนโดจึงควรมีการทบทวนและปรับปรุงแผนรับมืออยู่เสมอ รวมถึงมีการจัดอบรม ซ้อมแผนฉุกเฉินประจำปี เพื่อให้ลูกบ้าน พนักงาน มีความเข้าใจที่ถูกต้อง รู้ว่าหลังเกิดแผ่นดินไหวควรทำอย่างไร วิ่งออกทางไหน ไปรวมพลที่จุดไหน แผ่นดินไหวห้ามทำอะไร เมื่อถึงเวลาเกิดเหตุขึ้นจริงจะได้ไม่ตื่นตระหนกจนเกิดความโกลาหล
นอกจากนี้ นิติบุคคลคอนโดต้องคอยดูแลพื้นที่ให้เรียบร้อย อย่าให้มีสิ่งของใดมาวางกีดขวางทางเดินหรือบันไดฉุกเฉิน พร้อมทั้งติดตั้งอุปกรณ์ เช่น ถังดับเพลิง ไฟฉุกเฉิน ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้มีจำนวนเพียงพอ และหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์เหล่านี้ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานเสมอ
แผ่นดินไหวที่เกิดในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่นาที อาจสร้างความเสียหายได้มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะอาคารสูงอย่างคอนโด ที่อาจต้องซ่อมแซมทั้งพื้นที่ส่วนกลางและห้องชุดแต่ละห้อง แต่หากมีระบบบริหารจัดการที่ดีก็จะช่วยให้การดำเนินงานสะดวกรวดเร็วขึ้นได้ โปรแกรมบริหารนิติบุคคลของ Siverman จะทำให้นิติบุคคลคอนโดสามารถติดต่อสื่อสารกับลูกบ้านได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งประกาศสำคัญ อัปเดตข่าวสาร รับเรื่องร้องเรียน ตลอดจนแจ้งเตือนพัสดุ และจ่ายบิลออนไลน์ ที่สามารทำผ่านแอปพลิเคชันได้ทั้งหมด ฟีเจอร์ของ Silverman ออกแบบมาเพื่อช่วยลดภาระของทีมบริหารนิติบุคคล และเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกบ้าน ทำให้ลูกบ้านไม่ต้องเสียเวลามาติดต่อที่สำนักงาน
อีกทั้งยังมีฟังก์ชันแจ้งซ่อมบำรุงที่สามารถออกใบสั่งงาน ดูปฏิทินงานช่าง ติดตามสถานะงานซ่อมได้แบบ Real time พร้อมแยกหมวดหมู่งานให้เป็นระบบ เช่น งานด่วน งานซ่อมแซม งานรื้อถอน ฯลฯ ช่วยให้นิติบุคคลสามารถวางแผนการทำงานได้ง่าย ติดตามความคืบหน้าของงานแต่ละแผนกได้อย่างรวดเร็ว และลดปัญหาการทำงานซ้ำซ้อนได้ ติดต่อเพื่อพูดคุยและสอบถามรายละเอียดเพิ่มกับทีม Silverman ได้เลยวันนี้